unbox บอร์ด ASUS Tinker Board 2S

Supachai Vorapojpisut
3 min readMar 26, 2022

--

ผมต้องขอบคุณทางบริษัท IBCON ที่ได้ส่งบอร์ด ASUS Tinker Board 2S มาให้ศึกษา ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการทดลอง edge computing บนบอร์ดที่มาจากผู้ผลิตในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์บ้าง แต่คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมาเทียบกับบอร์ด Raspberry Pi ในฐานะของบอร์ดที่คนรู้จักมากที่สุดก่อน ลองเอามาวางข้างๆกันจะเห็นว่าขนาดพอกัน (ลองเอาไปใส่เคส official ของ RPi 3 เหมือนจะฟิตหน่อยๆ ไม่แน่ใจว่าไปใส่เคสของ RPi 4 ได้เลยไหม) และมี pin ของ IO ออกมาเหมือนกัน

บอร์ด Raspbery Pi 4 วางข้างๆบอร์ด ASUS Tinker Board 2S

ในกล่องของ ASUS Tinker Board จะมีของเพิ่มมาหน่อยคือ heatsink และเสาอากาศภายนอกแบบหัวต่อ uFL ตัว heatsink ให้มาแบบสูงที่ไปทำให้เกิดปัญหาแน่นอนหากจะไปต่อบอร์ดเสริม hat แบบต่างๆ แต่อาจหันไปใช้ fan ก็ได้ เพราะมีขั้วต่อ power มาให้โดยเฉพาะ การเลือกใช้โมดูล WiFi แบบเสาอากาศภายนอกเห็นในอินเตอร์เน็ตบ่นว่าไม่ค่อย friendly นักสำหรับมือใหม่ แต่ในแง่ของการนำไปใช้งานจริงจังเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เช่น ไปต่อเสาอากาศที่มีอัตราขยายสูงเพื่อให้สื่อสารได้ไกลขึ้น

ทาง IBCON ส่ง fanless case ที่เป็นอุปกรณ์เสริมมาด้วย ซึ่งเป็นเคส Aluminum แบบหนาพอควร เรียกได้ว่าความแข็งแรงระดับ ok ตัวเคสจะมาพร้อม heatsink อีกตัวหนึ่งที่เป็นก้อนและสูงน้อยกว่าตัว heatsink ที่มากับบอร์ด ซึ่งจะมีเทปกาวที่ส่วนฝาสำหรับถ่ายทอดความร้อนไปสู่ตัวเคสด้วย เทปกาวของเคสจะเหนียวน้อยกว่า heatsink ตัวสูง รวมทั้งเคสมีช่องให้ถอดเสียบ SD card ด้วย จึงยังคงง้างเคสออกมาเสียบสายหรือทำอะไรได้ ดังนั้นแนะนำใส่บอร์ดลงในตัวเคสเลยอาจจะทำให้สบายใจหน่อยเวลาเสียบสาย adapter และอุปกรณ์ USB ในอีกมุมมองหนึ่ง บอร์ด ASUS Tinker Board 2S มาพร้อม 16GB eMMC ที่สามารถใช้ซอฟต์แวร์บน PC เช่น balenaEtcher เขียน OS image ลงไปผ่านการเสียบสาย USB-C (ทำงานเป็น USB OTG) ทำให้ SD card อาจใช้เป็นแค่ storage เสริมก็ได้ จุดนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจว่าการเลือก boot ของบอร์ด ASUS Tinker Board 2S จะเลือกจาก jumper ตรงข้างๆหัวเสียบ power

เคสแบบ fanless ที่เป็นอุปกรณ์เสริม

ความรู้สึกตอนลองค้นข้อมูลของบอร์ด ASUS Tinker Board 2S ช่วงแรกคือ ค่อนข้างไม่ friendly เมื่อเทียบกับบอร์ด Raspberry Pi แต่มาลองไล่ดู spec แล้วจะเห็นหลายประเด็นที่ดูเหมือนจะไม่สำคัญ แต่ในแง่การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมถือว่าเป็นเงื่อนไขที่น่าคิดอยู่ เช่น

  • เลือกใช้ adapter แบบ 12 โวลต์ หัวต่อ 5.5mm/2.5mm แทนที่จะเป็น USB-C แบบ 5 โวลต์ แต่พอไปดูใน Lazada เลยเจอว่าเป็น adapter ที่มีขายกันเยอะ เพราะใช้จ่ายไฟให้อุปกรณ์หลายๆแบบ เช่น จอหรือสาย LED และเครื่องที่มีปั๊มข้างใน เช่น เครื่องพ่นหมอก การใช้ 12 โวลต์ทำให้กระแสไหลน้อยลง ในแง่ความร้อนก็จะดีขึ้น ทำให้ตัว adapter ทนทานหน่อย
  • มีวงจร RTC บนบอร์ด (ซื้อ RTC battery เสียบได้) ซึ่งหลายคนที่ใช้บอร์ด Raspberry Pi อาจจะไม่เอะใจว่า หากไม่มีอินเตอร์เน็ต บอร์ด Raspbery Pi จะเพี้ยนเรื่องวันและเวลาทันที เพราะใช้การตั้งเวลาจากโพรโทคอล NTP การมี RTC ทำให้สามารถไป deploy ในพื้นที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตได้
  • การมี eMMC บนบอร์ดทำให้หวาดเสียวน้อยลงหน่อยในการโดนถอด SD card ไป copy แล้วไปซื้อบอร์ด Raspberry Pi มาใช้งานเพิ่มแบบไม่จ่ายค่า license ของจำนวนอุปกรณ์ใช้หน้างาน แน่นอนว่าหากเลือกไปใช้ Raspberry Pi แบบ compute module จะได้ feature นี้ แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้น และต้องไปหาบอร์ดเสริมมาเพิ่ม LAN และ USB เอง

ในแง่ของการออกแบบวงจรเอง ตอนดูคำโฆษณาของเว็บก็เห็นหลาย keyword ในกลุ่ม protection ที่น่าสนใจ หากจะนำบอร์ดนี้ไปใช้ภาคสนามที่ต้องวางไว้นานๆ

จุดขายที่น่าสนใจของบอร์ด ASUS Tinker Board 2S

ความคาดหวังหนึ่งตอนเลือกบอร์ดมาทำคือ อยากให้ OS ที่มากับบอร์ดมีคนช่วยดูแลหน่อย เพราะเหนื่อยเอาการหากต้อง build ทุกอย่างเอง ทาง ASUS ก็ถือว่า ok โดยมีให้เลือก 2 OS คือ Tinker OS ที่ต่อยอดมาจาก Debian 10 และ Android 11 ตัวที่น่าสนใจคือ Android 11 เพราะน่าจะ friendly มากหน่อยเมื่อคิดถึงเครื่องมือพัฒนาใหม่ๆ เช่น flutter รวมทั้งโอกาสที่จะดาวน์โหลด apk จาก Android มาใช้ด้วย

ตัวเลือกดาวน์โหลด OS Image ของ ASUS Tinker Board 2S

หากจะเทียบกับ Raspberry Pi คงต้องทดลองจาก Tinker OS ที่เป็น Debian แล้วใช้ SSH เข้าไปดูข้างใน แต่ไม่อยากวัดใจตอนเสียบหัวต่อ uFL ของเสาอากาศ ผมเลยใช้การพัฒนาแบบ headless โดยต่อสาย LAN จากคอมพิวเตอร์แล้วเปิดใช้งาน Internet Connection Sharing เพื่อทดลอง SSH เข้าไปด้วย credential คือ linaro/linaro ตัว OS image ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม สามารถ SSH ได้ทันทีหลังจากใช้คำสั่ง arp -a เพื่อเช็คหมายเลข IP ในวง 192.168.137.xxx ทดลองดูเนื้อหาข้างใน OS เห็นตามนี้

  • ตัว OS image ใช้ไป 4 GB ทำให้ SD card เหลืออยู่ 26 GB
  • ทดลอง sudo apt update เห็นว่าไปเชื่อมต่อกับ Debian repository
  • ตอนใช้คำสั่ง htop เห็นสถานะของทั้ง 6 core (2 x A72 และ 4 x A53) เดี๋ยวค่อยไปดูอีกทีว่าจะเขียนโค้ดแบบล็อกประเภท core ได้ไหม
  • บอร์ดที่ได้มามี RAM 4G ใช้จริง 3xx MB เหลืออีกเพียบที่น่าจะ ok สำหรับงาน machine learning อนึ่ง RAM นี้เป็นแบบที่ run ตัว desktop LDXE แล้ว
การล็อกอินบอร์ดด้วย SSH

ทดลองต่อสาย HDMI กับ TV ก็มีจอของ LDXE ขึ้น แต่จอ TV ที่บ้านจะมีปัญหาตรงส่วนของ taskbar และ menu ข้างล่างและหน้าจอขอบบนจะตกขอบไปหน่อย เดี๋ยวค่อยไปลองกับตัว Android ว่าจะเจอปัญหาเหมือนกันไหม

Desktop แบบ LDXE ดูสไตล์จะเก่าหน่อย แต่ไม่ค่อยใช้ RAM มาก

ทดลองดู YouTube เพื่อทดสอบภาพและเสียงก็ ok อยู่ เลือกดูเป็นเพลง Only You ของ Boa ที่ระดับ 720 ภาพและเสียงออกมา ok และยังเหลือ processing power อนึ่ง ทดสอบในฐานะที่ browser จัดเป็นโหลดเท่านั้น หากจะซื้อไปเปิด clip น่าจะซื้อพวก Android box ที่ถูกกว่า ตัวบอร์ดสายนี้จะมีประโยชน์เต็มๆเมื่อยัดโหลดสาย machine learning ลงไป

HTOP ตอนดู clip บน YouTube

終わりに (ในตอนท้าย)

ผมคาดหวังกับบอร์ด ASUS Tinker Board 2S ในส่วน Android ซึ่งคงต้องออกแรงหน่อยว่าการสร้าง backend service ที่ทำงานในส่วน machine learning หรือ user API จะทำได้อย่างไร เนื้อหาครั้งหน้าคงจะเป็นส่วนของ machine learning แล้วก็การพัฒนาซอฟต์แวร์บน Android OS ครับ แน่นอนว่าต้องขอบคุณทาง IBCON ที่ส่งบอร์ดมาให้ลองครับ หากยังหาซื้อบอร์ด Raspberry Pi ไม่ได้ อย่าลืมไปลองติดต่อทาง IBCON เพื่อลองว่าจะเอามาใช้ใน project ได้ไหมครับ

--

--

Supachai Vorapojpisut
Supachai Vorapojpisut

Written by Supachai Vorapojpisut

Assistant Professor at Thammasat University

No responses yet